เอกอัครราชทูต ณ กรุงลิมา ได้ย้ำถึงโอกาสทางการค้าและการดำเนินธุรกิจระหว่างไทยกับภูมิภาคดังกล่าวโดยเฉพาะกับเปรูซึ่งมีปัจจัยต่างๆ ที่เอื้อต่อการขยายการค้าและการลงทุนทำธุรกิจเป็นทุนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการที่เปรูมีนโยบายทางการเมืองและรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีสภาพเศรษฐกิจเปิดและมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจคงที่ต่อเนื่องตลอด 21 ปีที่ผ่านมา มีขนาดของตลาดผู้บริโภคที่พอใช้ได้ นอกจากนี้ ไทยและเปรูยังมีข้อตกลงการค้าเสรีในการลดมาตรการกีดกันทางการค้าและกำแพงภาษีระหว่างกันด้วย โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้ชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการส่งออกสินค้าของไทยที่เปรูมีความต้องการและปัจจุบันมีการนำเข้าในอัตราที่สูงโดยเฉพาะรถยนต์ เครื่องจักรกลหนัก ผลิตภัณฑ์ยาง พลาสติก และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งโอกาสในการลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเปรูช่วงปี ค.ศ. 2019 – 2021 อาทิ โรงกำจัดน้ำเสีย โรงไฟฟ้า ระบบขนส่ง และนิคมอุตสาหกรรม

การสัมมนาฯ ดังกล่าวจัดขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2562 ระหว่างเวลา 09.00 – 16.00 น. โดยมีอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทย และประธานหอการค้าเม็กซิกัน-ไทย เป็นผู้กล่าวเปิดงาน และมีการบรรยายในหัวข้อที่น่าสนใจหลากหลาย ได้แก่ วัตถุดิบและสินค้าที่น่าสนใจในพันธมิตรแปซิฟิก การใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ชิลี และไทย-เปรู การจัดการกับความเสี่ยงธุรกิจส่งออก สาขาการลงทุนที่มีศักยภาพสำหรับนักธุรกิจไทย โดยวิทยากรจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งของไทยและประเทศกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก