สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิมาจัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2560

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิมาจัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2560

วันที่นำเข้าข้อมูล 8 ธ.ค. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 พ.ย. 2565

| 545 view

          เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2560 เวลา 13.00 – 15.00 น. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดงานเลี้ยงรับรอง (Vin d’Honneur) เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2560 ที่ห้อง Grand Salon โรงแรม Swissôtel Lima โดยมีนายอังกูร กุลวานิช อุปทูต ประธานในพิธี ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ชุมชนไทยและครอบครัวที่พำนักในสาธารณรัฐเปรู นาย José Antonio Raymundo Bellina Acevedo อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนียในฐานะผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศเปรู

          พร้อมด้วยบรรดาเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเปรู คณะทูตานุทูตและกงสุลในกรุงลิมา ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเปรู เข้าร่วมงานประมาณ 170 คน ประธานในพิธีถวายคำนับเบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร (ซึ่งมีการตั้งเครื่องทองน้อยไว้เบื้องหน้า) และเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพเบื้องหน้าพระสาทิสลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จากนั้น บรรเลงเพลงชาติเปรูและเพลงชาติไทย ประธานในพิธีกล่าวสุนทรพจน์ถวายราชสดุดีแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยกล่าวว่า แม้ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 แต่พระองค์ยังทรงเป็น “พ่อของปวงชนชาวไทย” อยู่เสมอ ความรักเทิดทูนอย่างที่สุดต่อพระองค์ท่านของพสกนิกรชาวไทยทั้งมวลที่มีต่อพระองค์ท่านเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณ พระวิริยะอุตสาหะตลอดพระชนมชีพที่ทรงทุ่มเทให้แก่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นของประชาชนชาวไทยผ่านโครงการในพระราชดำริต่างๆ ตลอดระยะเวลา 70 ปี 126 วันที่ทรงครองสิริราชสมบัติ ซึ่งเป็นไปดั่งพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” โดยแท้ และได้ยกตัวอย่างถึงพระราชกรณียกิจในด้านการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์จากดินซึ่งเป็นที่มาของแนวพระราชดำริที่สำคัญ เช่น “ทฤษฎีใหม่” ที่ส่งเสริมการปลูกพืชหมุนเวียนลดความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของราคาพืชผลในตลาดต่อกลุ่มชาวนาที่มักปลูกพืชเพียงชนิดเดียว การอนุรักษ์ดินโดยการปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันดินถล่ม และการแก้ปัญหาดินเปรี้ยว เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้ระดับความยากจนลดลง ชาวนามีภูมิคุ้มกัน และสามารถพึ่งพาตนเองได้ พระราชกรณียกิจดังกล่าวไม่เพียงยังประโยชน์ต่อประชาชนคนไทย แต่ยังเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาคมโลกดังเห็นได้จากการที่ ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (United Nations General Assembly – UNGA) กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็น “วันดินโลก” อีกทั้ง ตลอดพระชนมชีพและการครองราชย์กว่า 70 ปี ทรงเป็นตัวอย่างของการเพียรปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ซึ่งควรแก่การที่เราทั้งหลายจะปฏิบัติสืบทอดและดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทโดยการดำรงตนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นอยู่เสมอ ให้สมดังพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งกับคณะรัฐมนตรีให้ใช้ “ศาสตร์แห่งพระราชา” ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินต่อไป อนึ่ง ในโอกาสครบรอบ 52 ปี การสถาปนา ความสัมพันธ์ทางทูตระหว่างไทย – เปรูในปีนี้

          ประเทศไทยขอยืนยันความมุ่งมั่นในการสานต่อการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของไทยและเปรูให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตลอดจนส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกมิติและในทุกระดับเพื่ออนาคตอันรุ่งโรจน์ของสองประเทศ ซึ่งในส่วนของสถานเอกอัครราชทูตฯ พร้อมที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลเปรูและทุกภาคส่วนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายต่อไป เมื่อกล่าวสุนทรพจน์ฯ จบ อุปทูตฯ ประธานในพิธีเชิญผู้เข้าร่วมงานดื่มถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเปรู และประชาชนชาวเปรู และบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้น ได้ฉายวิดีทัศน์แสดงวิสัยทัศน์และศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางสำหรับการลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และการแสดงรำไทยของนักเรียนไทยในเปรู นอกจากนี้ ภายในงานสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตลอดจนพระราชกรณียกิจด้านการเจริญพระราชไมตรีกับนานาประเทศ และด้านการพัฒนาประเทศ การสดุดีพระเกียรติคุณจากนานาประเทศ การน้อมนำแนวพระราชดำริด้านการพัฒนาและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในต่างประเทศ รวมทั้งยังได้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมไทย และยังใช้โอกาสดังกล่าวเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารไทยโดยได้จัดเตรียม ผัดไทยกุ้ง ปอเปี้ยะไส้ผัก กุ้งห่มสไบ หมูปิ้ง ทอดมันปลา มาให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับประทานด้วย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ